Category: วิธีการปลูกผัก

ปลูกกะเพรา ไว้กินเองในบ้าน ปลูกง่าย ไม่ยุ่งยาก

ปลูกกะเพรา ไว้กินเองในบ้าน ปลูกง่าย ไม่ยุ่งยาก

ปลูกกะเพรา ไว้กินเองในบ้าน ปลูกง่าย ไม่ยุ่งยาก กระเพราเป็นผักสวนครัวที่ได้รับความนิยมนำมาประกอบอาหาร และเป็นผักที่สามารถปลูกไว้กินเองได้ และยังมีวิธีการปลูก การดูแลที่ไม่ยุ่งยากอีกด้วย วันนี้เราเลยจะมาแนะนำวิธีปลูกกะเพราไว้กินเองในบ้าง ซึ่งจะมีวิธีไหนบ้างนั้นไปดูกันเลย

ปลูกกะเพรา ไว้กินเองในบ้าน

วิธีการปลูกกะเพรา

1. เตรียมดินที่ละเอียดเทลงในกระถาง

2. หว่านเมล็ดกะเพราให้ทั่ว จากนั้นใช้ฟางกลบ หรือใช้ปุ๋ยคอยโดยทับบาง ๆ

3. ให้รดตามทันที ซึ่งการรดน้ำนั้นควรจะใช้ฝักบัวที่มีรูเล็ก ๆ

4. รอประมาณ 7 วัน เมล็ดจะค่อย ๆ งอกเป็นต้นกล้า

5. รอจนต้นกล้าอายุครบ 1 เดือน แล้วค่อย ๆ ถอนแยก และจัดระยะต้นให้มีระยะห่างระหว่างต้น ประมาณ 20 – 30 เซนติเมตร

6. รอให้ต้นกล้าโต พอต้นกล้าโตเต็มที่แล้วเราก็สามารถเก็บมาประกอบอาหารได้

การดูแลต้นกระเพรา

ให้ลดน้ำเช้า – เย็น อย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ต้นกะเพราเติบโตตามธรรมชาติ แต่การรดน้ำนั้นไม่จำเป็นต้องรดบ่อย ๆ ก็ได้ เพราะกะเพราเป็นพืชที่ทนแล้งได้ดี ไม่ต้องดูแลอะไรให้ยุ่งยากเลย

ประโยชน์ของกะเพรา

1. ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น และป้องกันหวัด

2. แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน

3. ช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร แก้อาการจุกเสียดและแน่นทอง

4. ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค และช่วยฆ่าจุลินทรีย์บางชนิด

5. ช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์

6. ช่วยลดระดับไขมันในร่างกาย ลดน้ำตาลในเลือด และป้องกันโรคเบาหวาน

ปลูกกะเพรา ไว้กินเองในบ้าน ปลูกง่าย ไม่ยุ่งยาก เป็นยังไงกันบ้างคะ กับวิธีการปลูกกะเพราที่เรานำมาแนะนำในวันนี้ ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนมีเวลาว่างก็ลองหาเมล็ดกะเพรามาเพาะปลูก เพื่อจะได้นำไปประกอบอาหารนะคะ เพราะกะเพรามีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้ร่างกายอบอุ่น และป้องกันหวัด, แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน และช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร

สนใจผลิตภัณฑ์กำจัดแมลง น้ำส้มควันไม้ เกรดพรีเมี่ยม ฟาร์มเมอร์มีฝาทอง

บทความที่คุณอาจจะสนใจ

อ่านบทความ เรื่อง วิธีการปลูกฟักทอง แบบง่าย ๆ
อ่านบทความ เรื่อง น้ำส้มควันไม้ สารกำจัดศัตรูพืชชั้นเลิศ

ปลูกคะน้าด้วยวิธีการหว่านเมล็ดลงแปลง

ปลูกคะน้าด้วยวิธีการหว่านเมล็ดลงแปลง

ปลูกคะน้าด้วยวิธีการหว่านเมล็ดลงแปลง ผักคะน้าเป็นผักสวนครัวที่สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี ช่วงเวลาที่ปลูกแล้วได้ผลดีที่สุด คือ ช่วงเดือนตุลาคม ถึง เดือนเมษายน ซึ่งการปลูกคะน้าด้วยวิธีการหว่านเมล็ดลงแปลงจะช่วยลดขั้นตอนการปลูก เพราะการปลูกแบบหว่านเมล็ดจะไม่ได้ย้ายต้นกล้า และจะช่วยให้ผักคะน้าเจริญเติบโตเร็ว และสามารถเก็บผลผลิตขายได้หลายช่วง

ปลูกคะน้าด้วยวิธีการหว่านเมล็ดลงแปลง

ปลูกคะน้าด้วยวิธีการหว่านเมล็ดลงแปลง มีวิธีการปลูกดังนี้

การเตรียมดิน
การเตรียมดิน ให้ไถพรวนดินพลิกตากแดดไว้ 7-14 วัน จากนั้นใส่ปุ๋ยคอก 1 ตัน ต่อ 1 ไร่ และไถพรวนอีกครั้ง เพื่อให้ดินและปุ๋ยคอกเข้ากัน จากนั้นทำการไถร่องทำเป็นแปลงปลูก

การหว่างเมล็ด

1. หว่านเมล็ดให้กระจายทั้งแปลง โดยกะระยะในการหว่านให้ห่างกัน 2-3 เซนติเมตร

2. ใช้ดินผสมปุ๋ยคอกที่สลายตัวดีแล้วหว่านกลบเมล็ดที่หว่านเสร็จแล้ว ให้มีความหนา 1 เซนติเมตร

3. คลุมด้วยฟาง แต่ต้องคลุมบาง ๆ

4. รดน้ำให้ทั่ว เช้า – เย็น อย่างสม่ำเสมอ

5. เมื่อผักคะน้างอกได้ได้ 20 วัน ให้ถอนต้นที่ไม่สมบูรณ์ออก

6. เมื่อผักคะน้ามีอายุ 30 วัน ให้ถอนต้นที่ไม่สมบูรณ์ออกอีกครั้ง

7. ในการถอนผักคะน้าที่ไม่สมบูรณ์แต่ครั้งควรที่จะถอนวัชพืชออกด้วย และควรใส่ปุ๋ยคอกเพื่อจะทำให้ผักคะน้าเจริญเติบโตและแข็งแรง

การให้น้ำ
การให้น้ำ เนื่องจากผักคะน้ามีการเจริญเติบโตเร็ว ดังนั้นควรที่ปลูกผักคะน้าในที่ที่มีแหล่งน้ำที่เพียงพอและให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ผักคะน้าเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

ปลูกคะน้าด้วยวิธีการหว่านเมล็ดลงแปลง ผักคะน้าเป็นผักสวนครัวที่สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี ซึ่งการปลูกผักคะน้าด้วยการหว่านเมล็ดลงแปลงมีข้อดีคือไม่ต้องย้ายต้นกล้า แต่เราก็ต้องถอนผักคะน้าที่ไม่แข็งแรงออก และรดน้ำให้สม่ำเสมอจะทำให้ผักคะน้าของเราเจริญเติบโตและแข็งแรง

สนใจสินค้าทางการเกษตร คลิก
อ่านบทความ เรื่อง การดูแลและให้ธาตุอาหารผักไฮโดรโปนิกส์
อ่านบทความต่อไป เรื่อง วิธีปลูกผักสลัดแบบง่าย ๆ ภายในบ้าน

วิธีปลูกผักสลัดแบบง่าย ๆ ภายในบ้าน

วิธีปลูกผักสลัดแบบง่าย ๆ ภายในบ้าน

วิธีปลูกผักสลัดแบบง่าย ๆ ภายในบ้าน ผักสลัดเป็นผักที่นิยมรับประทานมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นผักที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นช่วยในการขับถ่าย ทำให้นอนหลับง่ายขึ้น และช่วยล้างสารพิษในร่างกาย ซึ่งผักสลัดเป็นผักที่ปลูกง่าย และสามารถปลูกภายในบ้านได้ ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการปลูกผักสลัดแบบง่าย ๆ ภายในบ้าน

วิธีปลูกผักสลัดแบบง่าย ๆ ภายในบ้าน

วิธีปลูกผักสลัดแบบง่าย ๆ ภายในบ้าน

ก่อนที่เราจะปลูกผักสลัด เราต้องรู้ก่อนว่าผักสลัดมีกี่ประเภท ซึ่งผักสลัดมีหลายประเภท เช่น กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค กรีนโบว์ มิซูน่า เรดคอส บัตเตอร์เฮด เรดโบ กรีนคอส และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งดินที่เหมาะสมกับการปลูกผักสลัดจะเป็นดินที่ร่วนซุย ที่มีความอุดมสมบูรณ์ และพื้นที่ปลูกต้องโล่งเพื่อที่ผักสลัดจะได้รับแสงแดด ซึ่งวิธีการปลูกสลัดมีดังนี้

1. เตรียมดิน โดยส่วนใหญ่ผักสลัดสามารถปลูกได้หลายแบบ เช่น ปลูกในกระถาง ปลูกในถุงดิน และปลูกในแปลงก็ได้ โดนเริ่มจากการเตรียมดิน คือ การนำดินร่วนมาผสมกับปุ๋ยคอกและขุยมะพร้าวที่ผสมในอัตรา 1 : 1 จากนั้นลดน้ำให้ชุ่มแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วทิ้งไว้ในร่มเป็นเวลา 7 วัน

2. ใช้เมล็ดที่สมบูรณ์ นำเมล็ดที่สมบูรณ์มาปลูก ซึ่งจะหาได้จากหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็นร้านจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ หรือ ซื้อตามร้านค้าออนไลน์ แล้วนำมาปลูกลงในกระถาง

3. การรดน้ำ รดน้ำพอให้ชุ่มระวังอย่าให้แฉะมากเกินไป

4. การย้ายต้นกล้า เมื่อต้นอ่อนงอกให้ย้ายต้นอ่อนไปปลูกที่กระถางใหญ่

5. การเก็บเกี่ยว เราสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตหลังจากเพาะเมล็ด ภายใน 40 – 45 วัน

วิธีปลูกผักสลัดแบบง่าย ๆ ภายในบ้าน ผักสลัดไม่เพียงแต่จะช่วยประหยัดในเรื่องของค่าใช้จ่าย แต่ยังช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดี ไม่ว่าจะเป็นช่วยในการขับถ่าย ทำให้นอนหลับง่ายขึ้น และช่วยล้างสารพิษในร่างกาย และเรายังสามารถปลูกผักสลัดเป็นอาชีพเสริมได้อีกด้วย


สนใจสินค้าทางการเกษตร คลิก
อ่านบทความ เรื่อง ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ในขวดพลาสติก คอนโดก็ปลูกได้
อ่านบทความต่อไป เรื่อง 4 เครื่องมือทางการเกษตรที่ใช้ในการทำสวน

5 เทคนิค ปลูกพืชผักอย่างไรให้ได้ผลผลิตดี

5 เทคนิค ปลูกพืชผักอย่างไรให้ได้ผลผลิตดี

5 เทคนิค ปลูกพืชผักอย่างไรให้ได้ผลผลิตดี การปลูกพืชแต่ละชนิดบางครั้งเราก็อยากจะให้มันโตเร็ว ๆ เพื่อที่เราจะได้นำผลผลิตส่งออกเพื่อเพิ่มรายได้ แต่พืชบางชนิดก็จะโตช้า บางครั้งอาจจะโดยโรคพืชทำลายจนผลผลิตเสียหาย เกษตรกรบางรายที่ทดลองปลูกพืช ทำสวน แต่ได้ผลผลิตโตไม่ทันใจ วันนี้เรามี 5 เทคนิค ปลูกพืชผักอย่างไรให้ได้ผลผลิตดี ซึ่งจะมีเคล็ดลับอะไรบ้างไปปดูกันเลย

5 เทคนิค ปลูกพืชผักอย่างไรให้ได้ผลผลิตดี

5 เทคนิค ปลูกพืชผักอย่างไรให้ได้ผลผลิตดี

1. เตรียมดินในการเพาะปลูกที่เหมาะสมกับพืชชนิดต่าง ๆ
เตรียมดินในการเพาะปลูกที่เหมาะสมกับพืชชนิดต่าง ๆ ถ้าเราอยากให้พืชที่เราปลูกโตเร็วเราก็ควรที่จะเลือกดินที่สะอาด เราต้องเช็คว่าดินที่นำมาปลูกเหมาะสมกับพืชของเราหรือไม่ สภาพแวดล้อมเข้าไปดูแลได้ไหม แสงแดดเพียงพอไหม เราควรจะปรับหน้าดินก่อนรึเปล่า หรือเราอาจจะทำการปรุงดินเพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้กับดิน และยังเติมแร่ธาตุสารอาหารให้ดินดี

5 เทคนิค ปลูกพืชผักอย่างไรให้ได้ผลผลิตดี

2. การเตรียมต้นกล้าเพื่อเพาะปลูก
การเตรียมต้นกล้าเพื่อเพาะปลูก เมื่อเราเตรียมดินแล้ว ต่อไปเราก็จะทำการจัดเตรียมต้นกล้า เราควรเลือกเมล็ดที่สมบูรณ์และแข็งแรง ไม่ติดโรค รากมีความแข็งแรง เพราะถ้าเราเลือกต้นกล้าที่ไม่แข็งแรง จะทำให้พืชของเราโตช้า และออกผลช้าด้วย

5 เทคนิค ปลูกพืชผักอย่างไรให้ได้ผลผลิตดี

3. การจัดวางระบบน้ำและแสงแดด
การจัดวางระบบน้ำและแสงแดด น้ำและแสงแดดเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากที่จะทำให้พืชเจริญเติบโต เพราะถ้าพืชขาดน้ำและแสงแดดจะทำให้พืชเจริญเติบโตช้า และให้ผลผลิตลดลง แต่การที่ให้น้ำมากเกินไปก็จะทำให้รากของพืชเน่า เพราะฉะนั้น เราต้องให้น้ำพืชอย่างสม่ำเสมอ ไม่มากเกินไป หรือน้อยเกินไป

5 เทคนิค ปลูกพืชผักอย่างไรให้ได้ผลผลิตดี

4. อาหารเสริมช่วยเร่งการเจริญเติบโตของพืช
อาหารเสริมช่วยเร่งการเจริญเติบโตของพืช เราอาจจะไม่รู้ว่าพืชที่เราปลูกต้องการอาหารเสริม เพื่อจะช่วยทำให้ผลผลิตสมบูรณ์ และจะช่วยเสริมอาหารที่ขาดไป ซึ่งจะทำให้พืชแข็งแรงมากขึ้น และจะเร่งอัตราในการเติบโตของพืชด้วย

5. การป้องกันโรคพืช
การป้องกันโรคพืช จะทำให้พืชของเราไม่เกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคใบด่าง ใบไหม้ ใบจุด ใบเหี่ยว และเกิดเชื้อรา หรือโรคที่เป็นอันตรายต่อพืช รวมไปถึงการป้องกันแมลงที่จะมาทำลายพืช หากเราใส่ใจในส่วนนี้พืชของเราก็จะเจริญเติบโต และได้ผลผลิตที่สมบูรณ์

5 เทคนิค ปลูกพืชผักอย่างไรให้ได้ผลผลิตดี เคล็ดลับเหล่านี้อาจจะเป็นประโยชน์สำหรับใครหลาย ๆ คน เพราะการที่เรานำเคล็ดลับไปปรับใช้กับการปลูกของเราจะทำให้พืชของเราเจริญเติบโตเร็ว แข็งแรง และได้ผลผลิตที่สมบูรณ์ ซึ่งจะเพิ่มผลผลิตเร็วทันใจต่อความต้องการของเราด้วย

อ่านบทความ เรื่อง ปฏิทินปลูกผัก ปลูกแบบนี้มีผักสดกินได้ทั้งปี
อ่านบทความต่อไป เรื่อง วิธีป้องกันและกำจัด “โรคกุ้งแห้งในพริก”